วันที่สอง

โบสถ์สีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู – ลานหินสีชมพู – เจดีย์บ้านหัวแหลม -

ชุมชนริมน้ำจันทบูร  - ย่านท่าหลวง – วิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช – กรุงเทพฯ

จากนั้นนำท่านเดินไปยังจุดถ่ายภาพเช็คอินแห่งใหม่ ลานหินสีชมพู โพสท่าเจิดจ้าท้าแดด ณ โขดหินริมทะเลที่มีสีแดงอมชมพูสดใส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกึ่งผจญภัยภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ คุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ลักษณะเป็นลานหินสีชมพูอมน้ำตาลแดงสวยงามแปลกตาที่แทรกตัวอยู่ริมชายหาดยาวไปจนสุดลานหินสีชมพูที่เป็นจุดชมวิวสำคัญ สามารถมองเห็นเกาะที่อยู่รอบๆ ได้อย่างสวยงาม มีระยะทางรวมราว 1 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวงกลมที่จะเลือกเดินเลียบชายหาดเพื่อไปชมลานหินสีชมพูก่อน หรือจะเดินขึ้นเข้าป่าเพื่อไปชมจุดชมวิวด้านบนเขาก่อนจะลงมาสู่ลานหินสีชมพูก็ได้

ร้านขายยาโบราณจังกวนอัน เป็นต้น หากเดินข้ามสะพานมาเพียงนิดเดียวจะพบกับ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล หรือโบสถ์คาทอลิกจันทบุรี ที่ได้ชื่อว่า “สวยงามที่สุดในประเทศไทย” เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมคลองจันทบุรี ตรงข้ามชุมชนเก่าแก่จันทบูร มีจุดเด่นที่เด่นชัดคือยอดแหลมบนหอระฆัง 2 หลัง ภายในวิหารมีการตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ ช่องบานกระจกแบบกอทิก และกระจกงานกระจกสี นอกจากนี้ภายในยังมีแม่พระที่มีความล้ำค่า ซึ่งตกแต่งด้วยพลอยกว่า 200,000 เม็ด หรือกว่า 2 หมื่นกะรัต และฐานซึ่งหล่อขึ้นด้วยเงินบริสุทธิ์ ประดับองค์ด้วยทองคำและพลอยชนิดต่างๆ อิสะรให้ท่านเก้บภาพความประทับใจ

แวะสักการะ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจันทบุรี มีรูปทรงสวยงาม และแปลกตา มีกลิ่นอายของความเป็นไทย-จีน ออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยตัวอาคารจะออกแบบเป็นรูปหมวกทรงหกเหลี่ยม มีความสวยงาม และสง่างามเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นที่จดจำประวัติศาสตร์ของเมืองจันท์เป็นอย่างมาก ในเรื่องราวประวัติศาสตร์ในการกอบกู้เอกราชของไทยเรานั่นเอง ใครที่มาจังหวัดจันทบุรีมักจะนิยมมาสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทาง ภายในยังมี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ออกแบบในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน สวยและงดงามเป็นอย่างมาก สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง)